Introduction
ผู้คนจำนวนมากของประเทศประสบปัญหาโภชนาการ
เนื่องจากการกินไม่เป็นและไม่มีจะกิน ซึ่งปัญหาทั้ง 2 อย่างนี้เป็นผลเสียอย่างร้ายแรงต่อการพัฒนาประเทศในทุก
ๆ ด้าน หากปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไข ไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
ผลเสียที่ตามมาก็คือ ความพิการทางสมองและอาจมีความพิการทางร่างกายร่วมด้วย
ซึ่งความพิการเหล่านี้หากเกิดขึ้นตั้งแต่วัยทารกหรือวัยเด็กตอนต้น
จะเป็นการยากที่จะแก้ไข นอกจากช่วยเหลือให้ดำรงชีวิตอยู่ต่อไปในสภาพของผู้อยู่ในภาวะด้อยทางสังคม
เป็นผลก่อให้เกิดปัญหาในอนาคตได้
ดังนั้นการให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหาร ซึ่งหมายถึงการให้โภชนาการศึกษาแก่ประชาชนทั่วไปอย่างทั่วถึง
และการเน้นถึงวิธีปฏิบัติ จำเป็นอย่างยิ่งที่ควรจะต้องศึกษา เพื่อหลีกเลี่ยงหรือขจัดโรค
ปัญหาโภชนาการที่สำคัญคือ โรคขาดสารอาหารชนิดขาดโปรตีนและพลังงานร่วมกัน
เป็นที่ยอมรับว่าเด็กไทยวัย 0-5 ปี เป็นโรคนี้ด้วยจำนวนที่สูงมาก
เป้าหมายสำคัญที่จะให้การศึกษาคือ เด็กวัยรุ่น ที่จะต้องเป็นผู้นำในอนาคตอันใกล้
โดยมีความเชื่อว่า เมื่อได้ศึกษาและเข้าใจถึงความสำคัญของอาหารที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกายและสมองแล้ว
บุคคลกลุ่มนี้จะสามารถแนะนำ สอน จัดหา และประกอบอาหารให้มีคุณค่าที่เหมาะสมได
้
อาหารกับมนุษย์
โภชนาการ หมายถึง ความต้องการอาหาร
การเปลี่ยนแปลงของอาหารในร่างกาย และการที่ร่างกายนำเอาสารอาหารไปใช้ประโยชน์
ความรู้ทางโภชนาการศึกษานั้นคือความรู้ที่เกี่ยวกับระบบการเปลี่ยนแปลงของสารอาหารทั้งในทางฟิสิกส์เคมีที่เกิดขึ้นในร่างกายของสิ่งมีชีวิต
ตลอดจนการพัฒนาการของร่างกาย อันเกิดจากกระบวนการที่สารอาหารไปหล่อเลี้ยงเซลล์
เนื้อเยื่อ และการควบคุมการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย และความรู้เกี่ยวกับโภชนาการก็ยังครอบคลุมเกี่ยวกับการปรุงอาหารให้เหมาะสมกับความต้องการของร่างกายในสภาพและวัยต่าง
ๆ เช่น ในวัยเด็ก ซึ่งเป็นวัยที่ร่างกายเจริญเติบโตมากที่สุด มารดาในระยะตั้งครรภ์
หลังคลอดและระยะให้นมบุตร หรือในบุคคลระยะพักฟื้นภายหลังการเจ็บป่วย
ในวัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ และวัยสูงอายุ
ในยุคนี้คนเรามักจะรับประทานอาหารที่ไม่มีคุณค่าทางสารอาหารครบถ้วนให้แก่ร่างกาย
เป็นต้นว่าอาหารฟาสต์ฟู้ด ซึ่งนักโภชนาการเรียกกันว่า "อาหารขยะ"
ซึ่งไม่ได้มีสารอาหารสำคัญที่จะให้ประโยชน์แก่ร่างกายได้อย่างพอเพียง
มีแต่จะให้แป้งและไขมันเกินความจำเป็น และเมื่อร่างกายอยู่ในภาวะขาดสารอาหารเมื่อใด
ระบบต่างๆ ภายในร่างกายก็จะทำงานได้ไม่เป็นปกติ ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่ระบบต่างๆ
ทำงานอย่างไร้ประสิทธิภาพ เมื่อนั้นก็เปรียบเสมือนเครื่องจักรที่ทำงานแปรปรวน
ส่งผลให้ร่างกายเกิดโรคภัยนานาประการได้อย่างฉับพลันทันที คนเราโดยมากไม่ได้คำนึงถึงเรื่องอาหารการกินมากนัก
เพราะคิดกันเพียงว่า กินอาหารให้อิ่มท้องและอร่อยปากเท่านั้นก็เป็นการพอเพียงแล้ว
ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดมหันต์ อาหารทุกมื้อที่คนเรากินเข้าไปนั้น
มิใช่เพียงไปก่อให้เกิดพลังงานแก่ร่างกายแต่เพียงอย่างเดียว
แต่ทว่า อาหารยังเป็นเสมือนยาวิเศษที่จะเข้าไปบำรุงอวัยวะต่างๆ
ของร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มพละกำลังให้แก่ร่างกายอีกด้วย
|